หลังแยกทางกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ท็อดด์ โบลีห์ เจ้าของทีม เชลซี ก็เปลี่ยนตัวโค้ชเป็นรายที่สามแล้วหลังเทคโอเวอร์ สิงห์บลูส์ เมื่อสองปีก่อนจากการประกาศแต่งตั้ง เอ็นโซ่ มาเรสก้า ให้รับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชคนใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

กุนซืออาร์เจนไตน์วัย 52 ปีตกเก้าอี้อย่างเร็วจี๋ในเวลาแค่ซีซั่นเดียวโดยทีมลูกหนังแห่ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ตัดสินใจเลือกใช้บริการนายใหญ่อิตาเลี่ยนที่สร้างผลงานพา เลสเตอร์ ซิตี้ ทะยานสู่ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ

และเพื่อทำความรู้จักกับหัวหน้าโค้ชคนใหม่ของ สิงห์บลูส์ ให้มากขึ้น เราจะไปส่องประวัติความเป็นมาของเขากันว่าเหมาะที่จะพา เชลซี กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อย่างที่เจ้าของสโมสรชาวอเมริกันวาดหวังจริงหรือ?

– เส้นทางการค้าแข้ง

มาเรสก้า ไม่ใช่คนอื่นคนไกลของวงการฟุตบอลอังกฤษเนื่องจากเขาเริ่มต้นค้าแข้งในระดับอาชีพกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน สโมสรฟุตบอลของเมืองผู้ดีเป็นทีมแรกในปี 1998 ภายใต้การคุมทัพของ เดนิส สมิธ และตามด้วย ไบรอัน ลิตเติ้ล

แม้จะยังพูดภาษาอังกฤษได้ไม่คล่องในตอนแรก แต่กองกลางอิตาเลี่ยนได้ลงเล่นให้ เวสต์บรอมวิช ในเกมลีกมากถึง 47 นัดก่อนหวนกลับบ้านเกิดไปร่วมทีม ยูเวนตุส แต่ไม่อาจแทรกตัวเป็นขาประจำในทีมตัวจริงของ ม้าลาย ได้

นับจากนั้น มาเรสก้า ก็กลายเป็นนักเตะจอมพเนจร และค้าแข้งกับอีก 9 สโมสรในสามประเทศทั้ง โบโลญญ่า (ยืม) , ปิอาเชนซ่า (ยืม) ฟิออเรนติน่า , เซบีย่า , โอลิมเปียกอส , มาลาก้า , ซามพ์โดเรีย , ปาแลร์โม่ ก่อนรีไทร์กับ เวโรน่า ในปี 2017 รวมเวลาทั้งสิ้น 19 ปี

– จับงานโค้ช

หลังเริ่มต้นคุมทีม อัสโคลี่ ใน เซเรียบี เมื่อปี 2017 มาเรสก้า ก็กลับสู่เมืองผู้ดีไปรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาทีมเพื่อความเป็นเลิศของ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2020 และสำแดงฝีมือพาทีม เรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก2 ได้ในปีต่อมาก่อนกลับบ้านเกิดอีกรอบไปคุมทีม ปาร์ม่า

อย่างไรก็ดี มาเรสก้า ไม่อาจพาทีม จัลโล่บลู ปีนขึ้นสู่ เซเรียอา ได้ และทำให้เขาโดนปลดในปี 2021 กระทั่งช่วงซัมเมอร์ปี 2022 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ดึงเขากลับมาที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม และแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมแทน ฆวนม่า ลิโย่ ที่ย้ายไปคุมทีม อัล ซาดด์ ในลีก กาตาร์ แต่สุดท้ายโค้ชสแปนิชก็กลับมารับตำแหน่งเดิมกับแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในเดือนส.ค.2023

– สร้างชื่อกับ เลสเตอร์

หลังจาก เดอะ ฟ็อกซ์ มีอันต้องตกลงสู่ แชมเปี้ยนชิพ ดีน สมิธ ที่ถูกดึงมาคุมทีมแทน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่โดนปลดก็ต้องตกเก้าอี้โทษฐานไม่อาจพาทีมอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก ได้

ถึงตรงนี้ สุนัขจิ้งจอก ตัดสินใจมอบตำแหน่งสำคัญให้กับ มาเรสก้า โดยมีการเซ็นสัญญากันสามปี และปรากฏว่ากุนซือวัย 44 ปีพาทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จตั้งแต่ซีซั่นแรก

แม้จะมีช่วงที่ เลสเตอร์ ฟอร์มตกหล่นไปบ้างจนเสี่ยงต่อการชวดเลื่อนชั้นไม่น้อยทั้งๆที่เคยนำห่างทีมที่ตามหลังไกลลิบถึง 14 แต้ม แต่สุดท้าย มาเรสก้า ก็ทำงานได้ตามเป้าโดยพา สุนัขจิ้งจอก เข้าเส้นชัยได้สำเร็จก่อนปิดซีซั่นสองนัดกระทั่งได้รับความสนใจจาก เชลซี เช่นเดียวกับ คีแรน แม็คเคนน่า นายใหญ่ อิปสวิช ซึ่งพาทีมเลื่อนชั้นได้เช่นกันในฐานะรองแชมป์ แชมเปี้ยนชิพ

จนในที่สุด สิงห์บลูส์ ตัดสินใจกาชื่อ แม็คเคนน่า ทิ้ง และทำให้เขาต่อสัญญากับ ม้าขาว ด้วยเชื่อว่า มาเรสก้า คือคนที่ใช่ พร้อมทั้งตกลงจ่ายค่าชดเชยให้ถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม 10 ล้านปอนด์ก่อนเซ็นสัญญากับนายใหญ่คนใหม่ห้าปีโดยมีอ็อปชั่นต่อสัญญาได้อีกปี

– แนวทางการคุมทีม

ไม่เพียงจะพา เลสเตอร์ คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนชิพ ได้เท่านั้น หากแต่โค้ชชาวเมืองพิซซ่ายังคุมทีมให้เล่นในสไตล์ครองบอลเป็นหลักอีกด้วย และส่งผลให้ เชลซี เชื่อว่าแนวทางของเขาจะพาทีมกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ได้

จะว่าไป อันที่จริง โปเช็ตติโน่ เริ่มคุมทีม เชลซี ได้อย่างเข้าที่เข้าทางแล้วในช่วงครึ่งหลังของซีซั่นซึ่งเขาพาทีมแพ้เกมลีกแค่นัดเดียวเท่านั้นจาก 15 นัดหลังพร้อมคว้าโควต้าลงเล่นถ้วย คอนเฟอเรนซ์ลีก รอบเพลย์ออฟ ได้ในฐานะทีมอันดับหกของ พรีเมียร์ลีก แต่ทีมเงินถังแห่งกรุงลอนดอนเลือกที่จะเริ่มต้นใหม่กับเจ้านายคนใหม่อีกครั้งโดยไม่คิดปล่อยให้ พอช สานต่อผลงานที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างในซีซั่นหน้า

และด้วยชั่วโมงบินที่อาจยังไม่มากพอ มาเรสก้า จึงมีภารกิจสุดท้าทายว่าเขาจะทำงานได้ตามที่ โบลีห์ ตั้งเป้าเอาไว้หรือไม่หลังจากนักธุรกิจชาวแยงกี้จะเพิดกุนซือมาแล้วสามรายนับตั้งแต่ซื้อสโมสรมาบริหารไล่ตั้งแต่ โธมัส ทูเคิ่ล , แกรม พ็อตเตอร์ และ โปเช็ตติโน่

สล็อตUDM88 บาคาร่า แทงบอลUDM88
UDM88 สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://betfortune88.com/
สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : @udm888